ทริปท้าลมหนาว เขาค้อ ภูทับเบิก ภูลมโล 3 วัน 2 คืน แบบไม่มีรถส่วนตัว โดย Tour Khaokho



Tour khaokho เหมารถขึ้นภูทับเบิก รถรับเหมาขึ้นภูทับเบิก รถรับเหมาขึ้นเขาค้อ ภูหินร่องกล้า ภูลมโล รถขึ้นวัดผาซ่อนแก้ว เดินทางไปภูทับเบิก เดินทางไปเขาค้อ ไม่ยากอย่างที่คิด หรือจะเป็น รถโดยสารขึ้นภูทับเบิก  สำหรับท่านที่ไม่ได้นำรถส่วนตัวมา เขาค้อ ภูทับเบิก ใช้บริการเราได้

ทริปท้าลมหนาว เขาค้อ ภูทับเบิก ภลมโล 3 วัน 2 คืน แบบไม่มีรถส่วนตัว รีวิวเขาค้อ รีวิวภูทับเบิก รีวิวภูลมโล อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า  

( เครดิตข้อมมูลและรูปภาพจาก Trip TH   และ ภาพสวยๆจากคุณ JamesAimBios)

– การเดินทางโดยรถทัวร์โดยสารจาก กรุงเทพฯ
ทริปนี้เราไปโดรถทัวร์โดยสาร จากกรุงเทพไปหล่มสักมีรถออกจากหมอชิตทุกวัน มีรถออกทุกชั่วโมง ทั้งของ บขส.เอง และ เอกชน ตั้งแต่เวลา 05.00 – 23.30 ค่ารถคนละ 217 บาท ใช้เวลาเดินทางราวๆ 6 ชั่วโมง
รถทัวร์ไปหล่มสัก เพชรประเสริฐทัวร์ ช่องขายตั๋วหมายเลข 1  ถ้าต้องการมาถึงเช้าๆ แนะนำรอบ 22.00 น.ขึ้นไปจนรอบสุดท้าย เพื่อลงที่ บขส.หล่มสัก 4 แยกพ่อขุนผาเมือง
โทร : 056 720 720


– รถรับเหมาขึ้นเขาค้อ ภูทับเบิก ภูหินร่องกล้า นำเที่ยวในพื้นที่ก็สะดวกดีเหมือนกัน เพราะไม่ต้องขับ หรือขี่รถเอง คนขับชำนานทาง ราคาไม่แพง เหมาต่อคัน เริ่มที่ 1000 บาท ราคาแล้วแต่เส้นทางนะครับ นั่งได้ 10 คน / คัน
โทร : 090-4544676 ,083-6268083 (คุณประสงค์)
โทร : 087-5741548 (คุณกวาง)
รายละเอียด > tour-khaokho.blogspot.com/















เดินทาง

Day 1

หมอชิต

เช้าที่สดใส เราจากออกจากกรุงเทพฯแต่เช้า ออกเดินทางจากกรุงเทพด้วยรถทัวร์ เที่ยวเวลา 06.00 น. จากหมอชิตไปลงที่อำเภอหล่ม สักจังหวัดเพชรบูรณ์ จากหมอชิตมีรถทัวร์ออกทุกชั่วโมง ตั้งแต่ 05.00 – 23.30 ทุกวัน ใช้เวลาเดินทาง 6 ชั่วโมง  รถทัวร์ไปหล่มสัก เพชรประเสริฐทัวร์ ช่องขายตั๋วหมายเลข 1
โทร : 056 720 720








ร้าน Moai (โมอาย)

ร้านนี้เป็นร้านกาแฟตั้งอยู่บนถนนหมายเลข 12 อยู่ระหว่างทางจากหล่มสักไปเขาค้อ หน้าร้านเราจะเห็นรูปปั้นโมอายขนาดใหญ่มาก ตกแต่งสวยงามมีความชิค เป็นร้านที่คนที่ผ่านไปผ่านมาถ่ายรูป และแวะดื่มกาแฟกัน





ด้านหลังร้านจุดชมวิวภูเขาสูงวิวดีบรรยากาศน่าจิบกาแฟมากกาแฟไปชมวิวไปฟินส์ สุดสุด เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ต้องแวะมาเยือนเมื่อมาเที่ยวเขาค้



วัดผาซ่อนแก้ว

วัดผาซ่อนแก้ว ตั้งอยู่ที่ตำบลแคมป์สน อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ วัดนี้จะมีรูปพระขนาดใหญ่สีขาวเห็นได้แต่ไกล จากทางหลวงหมายเลข 12 หรือเส้นทางไปเขาค้อ ตั้งเด่นอยู่กลางภูเขาสวยงามมากจุดเด่นของเส้นทางนี้เลย




วัดนี้เป็นจุดเด่นของเขาค้อไปแล้ว คือพระพุทธรูปสีขาวองค์ใหญ่ ที่สร้างเรียงซ้อนกันหลายองค์ตั้งแต่องค์เล็กไปจนถึงองค์ใหญ่ ซึ่งเป็นจุดเด่นของพระพุทธรูปของวัดแห่งนี้ สร้างอยู่บนภูเขาเห็นเด่นชัดมีความสวยงามมากมากจนเป็นแลนด์มาร์คที่สำคัญของเขาค้อและภูทับเบิกไปเลย ต้องแวะมาเยือนสักครั้ง




ร้าน Pino Latte (พี่โน่ ลาเต้)

ร้าน Pino Latte เป็นร้านกาแฟ ตั้งอยู่เลยวัดพระซ่อนแก้ว เข้าไปด้านใน ร้านนี้เป็นอีกร้านที่น่าสนใจมาก



ด้านบนเป็นจุดชมวิวที่มีที่นั่งเป็นบาร์ สามารถชมวิวได้ 180 องศาเป็นภูเขาและวิวโดยรอบสวยงามมาก เป็นร้านที่มีวิวเอกลักษณ์และเป็นจุด เช็กอินที่ไม่ควรพลาด







ออกจาก ร้าน Pino Latte เราจะเข้าไปที่อำเภอเขาค้อ ผ่านแยกแคมป์สน เลี้ยวซ้ายไปทางเขาค้อ ก่อนถึงตัวอำเภอเขาค้อ เราจะเห็นทุ่งหันลมขนาดใหญ่

ทุ่งกังหันลม เขาค้อ

ที่นี่เป็น ทุ่งกังหันลมขนาดใหญ่ ที่สามารถมองเห็นได้แต่ระยะไกล สำหรับกังหันลมที่นี่ ตั้งไว้เพื่อผลิตไฟฟ้าและเป็นแลนด์มาร์คที่สำคัญอีกแห่งของเขาค้อ เข้าไปด้านใน เราจะเห็นกังหันลมใหญ่มากอากาศที่นี่เย็นสบาย มีลมพัดตลอดเวลา





บริเวณทุ่งกังหันลมจะมีรถรางให้บริการสำหรับเที่ยวชมรอบ ทุ่งกังหันลมค่าบริการคนละ 20 บาทเที่ยว เที่ยวชมรอบทุ่งกังหันลม


ตรงทางเข้าทุ่งกังหันลมจะมีร้านขายของ ขายผักและผลไม้ให้เราเลือกซื้อกันช้าให้เล่น แล้วยังเป็นจุดชมวิวที่สวยงามมากๆด้วย


ออกจากทุ่งกังหันลมเราจะเข้าไปที่ตัวอำเภอเขาค้อ

เขาค้อ

ตัวอำเภอเขาค้อ มีที่พักและลานกางเต้นอยู่เยอะมาก จุดที่นิยมที่สุดคงนี้ไม่พ้น ที่ทำการไปรษณีย์เขาค้อ ที่นี่วิวสวยและสามารถชมทะเลหมอกได้ด้วย
– เอาเต็นท์มาเอง เสียค่ากางเต็นคนละ 50 บาท
– เช่าเต้นท์ขนาดกลาง ราคา 300 บาท นอนได้ 2 คน พร้อมเครื่องนอน
– เช่าเต้นท์ขนาดใหญ่ ราคา 600 บาท นอนได้ 4 คน พร้อมเครื่องนอน
– เช่าเต้นท์เปล่า (ไม่มีเครื่องนอน) ขนาดกลาง 120 บาท ขนาดใหญ่ 240 บาท
– บ้านพักราคา 1500 บาท นอนได้ 6 คน
ไปรษณีย์เขาค้อโทร : 056-728071 , 091-7723704 091-7723711 080-7915980
เราจะแวะชมวิวที่ที่ทำการไปรษณีย์เขาค้อ ที่นี่สามารถชมพระอาทิตย์ตกได้สวยงามมากๆผมเก็บภาพมาฝากไปดูกันว่าสวยแค่ไหน









ที่พักแนะนำอีกที่หนึ่งคือ ร่มการเวกรีสอร์ท บรรยากาศดี เงียบสงบเหมาะแก่การมาพักส่วนตัว
ติดต่อห้องพัก โทร 081-774 5794     romkaravek@gmail.com 
ติดต่อทางแฟนเพจ  https://www.facebook.com/romkaravek.khaokho/









Day 2

สวนสตรอเบอรี่ เขาค้อ

ในเขาค้อมีไร่สตรอเบอรี่อยู่เยอะมาก เนื่องจากสภาพอากาศเย็นสบายตลอดปี ทำให้เหมาะสำหรับการสตรอเบอรี่ ที่นี่เราสามารถเข้าไปเก็บสตรอเบอรี่ในไร่ แบบสดๆจากต้นได้เลย มีอยู่หลายไร่ให้เลือกตลอดสองข้างทาง มีเยอะมาก สีแดง สดๆจากต้น น่าหม่ำมาก ^__^







พระตำหนักเขาค้อ

พระตำหนักเขาค้อ เป็นพระตำหนักที่ตั้งอยู่บนเขาสูงอยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 1100 เมตร รอบๆพระตำหนักจะมีต้นสนจำนวนมาก เราสามารถเดินเล่นชมวิวรอบๆ พระตำหนักได้ แต่ภายในพระตำหนักไม่สามารถเข้าไปได้









ที่นี่อากาศเย็นสบายตลอดปีมีจุดชมวิวที่สามารถชมวิวได้ 180 องศา ลมหนาวพักมาเบาๆ สดชื่นสุดๆ





เขาตะเคียนโง๊ะ

เขาตะเคียนโง๊ะ อยู่ถัดจากพระตำหนักเขาค้อราว 10 กิโลเมตร เราต้องเสียค่าเข้าคนละ 10 บาท ที่นี่เป็นจุดชมวิวที่ตั้งอยู่บนเนินเขาสามารถชมวิวได้ 360 องศา เป็นจุดที่เหมาะสำหรับการเต้นชมทะเลหมอกที่นี่ลมแรงมากเหมาะสำหรับคนที่ชอบท้าลมหนาว เป็นอีกสถานที่ที่เหมาะสำหรับ ชมทะเลหมอกที่เขาค้อ









พิพิธภัณฑ์อาวุธและการสู้รบเขาค้อ (ฐานยิงสนับสนุนอิทธิ)

ฐานยิงสนับสนุนอิทธิ เป็น พิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ใช้ในการสู้รบกับคอมมิวนิสต์บริเวณพื้นที่เขาค้อ เราต้องเสียค่าเข้าชมคนละ 10 บาท




ข้างในมีปืนใหญ่ เฮลิคอปเตอร์ และปืนยิงสนับสนุน ให้ชมอยู่จำนวนมาก มีนิทรรศการจัดแสดงประวัติความเป็นมาของการสู้รบในยุทธภูมิเขาค้อ ที่ตั้งอยู่บนเขาสูงอากาศดี มีจุดชมวิวที่สวยงามอีกด้วย









ใกล้กันนั้นยังมีอีกหนึ่งสถานที่ นั่นคือ

อนุสรณ์ผู้เสียสละเขาค้อ

อนุสรณ์ผู้เสียสละเขาค้อสร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงวีรบุรุษ และผู้เสียสละที่เสียชีวิตจากการสู้รบในยุทธภูมิเขาค้อ ตั้งอยู่บนเขาสูง












พระบรมธาตุเจดีย์กาญจนาภิเษก

ตั้งอยู่กลางเมืองเขาค้ออย่าลืมแวะมากราบไหว้เพื่อเป็นสิริมงคลสำหรับการเดินทางด้วยน๊าา



ภูทับเบิก

สำหรับภูทับเบิก ที่นี่เป็นภูเขาสูงจากระดับน้ำทะเล 1,768 เมตร การเดินทางขึ้นมาบนนี้ มีทางลาดยางตลอดเส้นทางเป็นเส้นทางที่มีโค้งเยอะ และลาดชันมากต้องใช้ความระมัดระวังในการขับขี่อย่างมาก



ไร่กะหล่ำภูทับเบิก

บนภูทับเบิกเราจะเห็นไร่กะหล่ำอยู่เยอะมาก ส่วนใหญ่เป็นของชาวบ้านที่ทำเกษตรปลูกพืชผัก จนเป็นแลนด์มาร์คที่สำคัญเบิกของภูทับเบิกไปเลย ที่นี่อากาศหนาวเย็นตลอดปีทำให้เหมาะกับการปลูก อากาศดีและสดชื่นมาก








ยังมีสวนดอกไม้ สีสันสดใส ตั้งอยู่บนเขาสูงอากาศเย็นสบาย สวยงามมากๆ และไร่สตอเบอรี่เยอะอีกด้วย




Day 3

เช้าวันที่สาม ตื่นเช้าขึ้นมา รอชมพระอาทิตย์ขึ้น เป็นเช้าที่สดใสพระอาทิตย์ขึ้นสวยมาก อากาศดี



ตั้งหน้าตั้งตารอ จะพบกับทะเลหมอก ในที่สุดเราก็ได้เห็นทะเลหมอกเช้านี้ ลมแรงหมอกก็พอมีบ้างอาจจะไม่เยอะมากแต่ก็ยังมีพอให้เห็น บรรยากาศยามเช้าสดชื่นมาก เห็นอายหมอกไกลสุดลูกหูลูกตา วิวภูเขากับทะเลหมอก ได้เห็นแค่นี้ก็สุขใจมากแล้ว












วัดป่าภูทับเบิก



วัดป่าภูทับเบิก ตั้งอยู่บนภูทับเบิก เราจะเห็นวัดแห่งนี้ได้แต่ระยะไกล จะมีเจดีย์ขนาดใหญ่ ตั้งอยู่บนยอดเขาเห็นได้จากระยะไกลมาก






อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า

อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า มีพื้นที่ครอบคลุม 3 จังหวัดได้แก่ จังหวัดเพชรบูรณ์ จังหวัดเลย และจังหวัดพิษณุโลก ที่นี่มีที่เที่ยวเยอะแยะมากมาย ได้แก่ ภูแผงม้า ภูลมโล ภูหินร่องกล้า ลานหินปุ่ม และผาชูธง เดี๋ยวเราจะพาไปเที่ยวชมให้หมดเลย


ค่าเข้าอุทยาน
– ผู้ใหญ่ 40 บาท
– เด็ก 20 บาท
– ผู้ใหญ่ชาวต่างชาติ 500 บาท
– เด็กชาวต่างชาติ 300 บาท
– มอเตอร์ไซค์ 20 บาท
– รถเก่งรถปิ๊กอัพรถตู้ 30 บาท
– รถหกล้อ 100 บาท
– รถมากกว่า 6 ล้อ ขึ้นไป 200 บาท

ภูแผงม้า

ภูแผงม้า เป็นจุดแรกที่เราจะต้องผ่าน ถ้าเข้าจากทางภูทับเบิก อยู่ถัดจากด่านเก็บเงินไม่เกิน 200 เมตร จะมีป้ายทางเข้าอยู่ด้านซ้ายมือ ขี่รถขึ้นเขาเข้าไปด้านในอีก





ภูแผงม้า เป็นจุดชมวิวที่สวยมากๆของภูทับเบิก อยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 1775 เมตรสามารถมองเห็นวิวได้เกือบ 360 องศา เห็นวิวของภูทับเบิกสวยงาม มีภูเขายื่นออกไปทำให้วิวยิ่งสวยมากๆ บรรยากาศด้านบนลมแรง อากาศดี หากมีอากาศที่เหมาะสม เราจะเห็นทะเลหมอกไกลสุดลูกหูลูกตา





นับว่าเป็นจุดชมวิวที่ผมชอบและคิดว่าสวยงามที่สุดของภูทับเบิก
จากนี้เราจะออกเดินทางไกล 23 กิโลเมตร ไปยังบ้านร่องกล้า เพื่อต่อรถขึ้นไปยังภูลมโล

บ้านร่องกล้า

บ้านร่องกล้า ตั้งอยู่ในเขตอำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก เป็นชุมชนเล็กๆตั้งอยู่บนพื้นที่สูง มีอากาศหนาวเย็นตลอดปีที่นี่เป็นจุดศูนย์กลางที่จะต่อรถไปยังภูลมโล



การเดินทางไปยังภูลมโลจะไม่สามารถนำรถส่วนตัวเข้าไปได้เนื่องจากเส้นทางแคปชัน ฝุ่นค่อนข้างเยอะ จะต้องเหมารถที่เจ้าหน้าที่จัดเตรียมไว้ เพื่อขึ้นไปยังภูลมโล



อัตราค่าบริการรถบริการท่องเที่ยวภูลมโล
– ราคา 1000 บาท ต่อ 1 คัน นั่งได้ไม่เกิน 10 คนต่อคัน (10 คน ตกคนละ 100 บาท)
**สำหรับใคร ที่มาไม่ถึง 10 คน หรือมาสองคน สามคน แต่ไม่อยากเหมาก็รอไปกับกลุ่มอื่นได้ ซึ่งจะมีหลายคนที่มาน้อย แล้วมารวมกับคนอื่นๆ จะได้แชร์ค่ารถกันให้ถูกลง เบ็ดเสร็จ 10 คนตกคนละ 100 บาท อย่างของเราใช้เวลารวบรวมไม่ถึง 10 นาทีเพราะจะมีคนที่มาติดต่อเจ้าหน้าที่เรื่อย เราก็แค่นั่งรอแถวนั้น

ภูลมโล

รถจะพาเราเที่ยว 4 จุด
1. ทุ่งดอกนางพญาเสือโคร่ง
2. ทางขึ้นยอดภูลมโลจุดชมวิว
3. จุดชมวิวระหว่างทาง
4. ป้ายภูลมโลจุดชมวิว
สิ่งที่ต้องเตรียม
1. ผ้าปิดปากแว่นตาหรือหมวกเพราะระหว่างทางจะมีฝุ่นเยอะมาก
2. เสื้อกันหนาวใส่เสื้อกันหนาวไปด้วยเพราะลมแรงมากอากาศหนาว
3. การเดินทางทั้งหมดจะใช้เวลา 3 ชั่วโมงควรกินข้าวดื่มน้ำให้เรียบร้อยเพราะระหว่างเที่ยวชมไม่มีร้านค้าร้านอาหารจนกว่าจะกลับมาที่บ้าน ร่องกล้า
จากบ้านร่องกล้าไปยังจุดแรกระยะทางค่อนข้างไกล จะใช้เวลาเดินทางราวราว 20 นาที ระหว่างทางจะมีฝุ่นเยอะมาก ผ้าปิดปากและแว่นสำคัญมาก



001 ทุ่งดอกนางพญาเสือโคร่ง
ที่นี่เป็นจุดแรกที่เราจะมา และเป็นจุดที่สวยที่สุด และเป็นไฮไลท์ของที่นี่เลย รถจะจอดตามที่เราตกลงเวลากันกรณีที่ของเราจะใช้เวลาที่จุดนี้ 30 นาที




ดอกนางพญาเสือโคร่งที่กำลังเบ่งบาน ออกดอกสีชมพูพร้อมกันทั่วทั้งภูเขา เป็นภาพที่สวยงามมากๆ จนได้รับขนานนามว่าเป็นทุ่งดอกซากุระของเมืองไทย







มีต้นนางพญาเสือโคร่งนับร้อยต้น เกาะกลุ่มกันแข่งกันบาน 1 ปีจะบานแค่ 1 ครั้ง คือช่วงเดือนมกราคมของทุกปี แต่ละปีจะบานไม่ตรงกัน








อากาศเย็นลมหนาวพัดมาเบาๆ เดินชมต้นนางพญาเสือโคร่ง หรือหลายคนเรียกว่าซากุระเมืองไทย พื้นหญ้าสีเขียว ต้นไม้สีชมพู ฟ้าเป็นสีฟ้า อากาศเย็นสบาย เป็นอะไรที่สวยงามมากๆ











สมกับที่ตั้งตารอคอยมา 1 ปีเพื่อเบ่งบานแค่ 1 ครั้ง ต้องมาเห็นกับตาตัวเอง ที่นี่สวยงามมากแค่ไหน
ชมทุ่งดอกนางพญาเสือโคร่งเสร็จก็ไปยังจุดต่อไป
002 ทางขึ้นยอดภูลมโลจุดชมวิว
จุดนี้จะเป็นจุดชมวิวที่สามารถเห็นวิวได้ 180 องศา เป็นจุดชมวิวที่สวยแห่งสามารถมองเห็นได้ไกลถึงภูทับเบิก





จากจุดนี้จะสามารถเดินเท้าขึ้นไปบนยอดของภูลมโล ขึ้นไป 650 เมตร ผมเองก็ไม่พลาดที่จะขึ้นไปเก็บภาพมาให้ชมกัน ข้างบนจะมีหน้าผาที่สูงมาก เห็นวิวได้ไกลสุดลูกหูลูกตา






003 จุดชมวิวระหว่างทาง
จุดนี้จะอยู่ข้างทาง มีก้อนหินใหญ่ ที่มีบันไดเดินขึ้นไปสามารถชมวิวได้ 360 องศา








004 ป้ายภูลมโลจุดชมวิว
จุดนี้เป็นจุดสุดท้าย จะมีป้ายชื่อภูลมโล ให้ได้แวะถ่ายรูปกัน





และยังมีจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นวิวได้แบบพาโนราม่า เห็นทุ่งต้นดอกนางพญาเสือโคร่ง ได้ทั้งภูเขา





อีกฝั่งก็สามารถมองเห็นภูหินร่องกล้า จุดนี้จะเป็นรอยต่อของสามจังหวัด ได้แก่ จังหวัดเลย จังหวัดพิษณุโลก และจังหวัดเพชรบูรณ์

เสร็จแล้วรถจะกลับ ไปส่งเราที่เดิม
ออกจากบ้านร่องกล้า ไปอีก 7 กิโลเมตร เราจะไปสถานที่ที่น่าสนใจอีกแห่งของอุทยานแห่งชาติก็คือลานหินปุ่ม และผาชูธง
จากทางเข้าเราต้องเดินเท้าเข้าไปซึ่งเป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติและประวัติศาสตร์ ระยะทางรวม ไป/กลับ 2 กิโลเมตร จะใช้เวลาเดิน 1 ชั่วโมงครึ่ง ควรพกน้ำดื่มเข้าไปด้วย
จากทางเข้าไปถึงลานหินปุ่ม ระยะทาง 1 กิโลเมตร ตามเส้นทางเราจะเห็นที่เกิดจากพลังธรรมชาติ เป็นรูปร่างต่างๆให้เราเห็นระหว่างทาง

ลานหินปุ่ม

ลานหินปุ่มจะมีลักษณะเป็นหินที่มีปุ่มนูนขึ้นมา อยู่เป็นจำนวนมากเป็นความมหัศจรรย์ของธรรมชาติที่สร้างสรรค์ขึ้นมา







บริเวณนี้มีลักษณะเป็นหน้าผาสูง สามารถมองเห็นวิวได้ไกลสวยงามมาก มีลมเย็นพัดตลอดเวลา อากาศเย็นสบายตลอดปีแม้ในหน้าร้อน







ในอดีตบริเวณนี้ใช้เป็นที่พักฟื้นของคนไข้เนื่องจากอยู่บนหน้าผาจึงมีลมพัดเย็นสบายนั่งพักผ่อน





เดินเท้าต่อไปตามเส้นทางอีก 600 เมตรก็จะถึง

ผาชูธง

ผาชูธง เราจะเห็นธงชาติไทยได้จากระยะไกล อยู่ห่างจากลานหินปุ่มประมาณ 600 เมตร เป็นหน้าผาสูง สามารถชมวิวทิวทัศน์ได้ไกลโดยเฉพาะตอนที่พระอาทิตย์ตก จะสวยงามมาก


บริเวณนี้เคยเป็นสถานที่สู้รบระหว่างรัฐบาลไทยกับผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ ที่นี่เป็นจุดที่ผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์จะขึ้นไปชูธงแดง (ฆ้อนเคียว) ทุกครั้งที่รบชนะทหารของรัฐบาล






เป็นจุดชมวิวที่สวยงาม อีกแห่งของเขตอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า
ออกจากเขตอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า เราก็กลับไปยังผู้ทับเบิกเพื่อไปเอากระเป๋าแล้ว ลงจากภูทับเบิก ไปที่อำเภอหล่มสัก

จบทริปการท่องเที่ยว เดินทางกลับไปยัง บขส.หล่มสักเพื่อเดินทางกลับ กทม. 

(ขอบคุณข้อมูล และรูปภาพ จากเว็บ ทริปไทยแลนด์ Trip TH )